Category ข่าวบันเทิง

มุก วรนิษฐ์ โสดจีบได้

“มุก-วรนิษฐ์” แจ้งสถานะโสดจีบได้ ปัดแขวะ “ทอย” คนรักเก่า ตนมูฟออนไปแล้ว

จบรักครั้งเก่าไปนาน แต่นางเอกสาว มุก วรนิษฐ์ ถาวรวงศ์ ก็ยังถูกโยงไม่จบ หลังสาว เทีย เดอะ เฟซ อัปรูปยิ้มคู่ มุก ในไอจีสตอรีรวมทั้ง มุก ก็รีโพสต์ ตรงกับช่วงที่ จีน่า–วิรายา เดอะเฟซ ออกมายอมรับ ว่าเลิกรากับ ทอย–ปฐมพงศ์ อดีตแฟนหนุ่มของ มุก ซึ่ง เทีย รวมทั้ง จีน่า ก็เคยกลายเป็นประเด็นกัน

เจอ มุก ร่วมงานแถลงข่าว “GMM TV 2023 : DIVERSELY YOURS” เลยคว้าตัวมาเคลียร์ ถึงเรื่องที่ มีคนโยงหลัง เทีย แท็กสตอรีเรามา?

“ อ๋อ เค้าแท็กสตอรีมา เราก็รีโพสต์แค่นั้นเลย ”

มันเป็นช่วงที่จีน่าเลิกกับทอย คนก็เลยจับโยง เพราะเทียก็เคยมีประเด็นกับจีน่า?

“ หนูไม่เกี่ยวกับเรื่องนั้นแล้วดีกว่า คือเพื่อนแท็กสตอรีมา เราก็รีโพสต์เป็นเรื่องปกติ มุกตกใจเรื่องประเด็นติ๊กต่อกมากยิ่งกว่า มันจะมีอันหนึ่ง ที่ลิปซิงก์ยาว ๆ ซึ่งอันนั้นมันปีกว่าแล้ว แล้วมีคนเอามาลงอีกครั้งหนึ่ง แล้วแอปก็เก่ง พอมีเรื่องก็ดึงขึ้นมา ทำให้คนพูดถึงกัน แต่จริง ๆ หนูไม่ได้เกี่ยวข้อง ช่วงนี้ชีวิตหนูแฮปปี้ดี ”

มุก วรนิษฐ์ แจ้งสถานะ

เวลาคนจับโยงมันมีผลกระทบกับเรามั้ย?

“ เพื่อน ๆ ก็ส่งมาว่า เฮ้ย เราโดนดึงเข้าไป เอ่ยถึงอีกแล้ว ซึ่งชีวิตมุกมันไปเรื่องอื่นแล้ว ถามว่ามีคอมเมนต์ด้านลบเยอะมั้ย มุกไม่ค่อยได้รับอะไร ที่มันเป็นด้านลบ มุกรู้สึกว่าอะไรที่มันผ่านไป และก็ให้มันผ่านไป ทุกสิ่งทุกอย่างมันเคลียร์ไปแล้ว”

แล้วสถานะหัวใจเราช่วงนี้มีใครใหม่หรือยัง?

“ ไม่มีเลย ไม่มีแฟนค่ะ จีบได้นะคะ (หัวเราะ) คือก่อนหน้านี้ที่ถ่ายรูปกับน้อง ๆ ผู้ชาย หนูก็จะมีแคปชันว่า ป.ล.อันนี้ถ่ายแบบนะ อันนี้น้องนะ กลัวว่าพอเห็นปก ก็จะคิดว่าคนนี้แฟนมุก เลยไม่ได้ ๆ เรายังโสดอยู่ เดี๋ยวไม่มีคนไหนเข้ามา ”

มีคนเข้ามา จีบบ้างมั้ย?

“ ก็มีบ้างค่ะ แต่ตัวมุกช่วงนี้เป็นช่วงอยู่กับเพื่อน แล้วเราชอบคนยากขึ้น เหมือน ว่ากำแพงหนูสูงขึ้น เพราะเราก็คงต้องศึกษาใครนาน ๆ กลัวว่าคบแล้วจะเข้ากันมิได้ ความกังวลของหนู มันมากขึ้นแบบสองเท่าค่ะ ”

รีวิวหน่อยหนุ่มที่เข้ามาจะต้องเป็นแบบไหน?

“ หนุ่ม ๆ ที่เข้ามาก็ต้องการให้เป็นเพื่อนกันได้ มีความหวังดีต่อกัน และก็หล่อหน่อยก็ดีค่ะ (หัวเราะ) ชอบคนหล่อค่ะ แต่จะต้องเป็นคนดีค่ะ อันนี้สำคัญที่สุดเลย ”

ถามเรื่องที่ เมฆ–จิรกิตต์ พี่ชายเราหมดสัญญากับ GMMTV แล้ว เค้ามีมาปรึกษาเรามั้ย?

“ ก็เป็นการตัดสินใจของเค้าค่ะ เค้าก็มีคิดอยู่ว่า เค้าจะไปทางไหนดี แต่เท่าที่มุกได้ยินคือเค้าต้องการไปเรียนต่อ อยากรู้ว่าตนเองชอบอะไร คิดว่าเค้าจะไปต่างประเทศนะ เค้าเป็นคนติสต์ เราไม่รู้จริง ๆ ว่าเค้าจะเอาอย่างไรกันแน่ เราก็ตามใจพี่ชายค่ะ ตัวเค้าก็มีความชอบหลายแบบ ช่วงนี้เค้าก็เริ่มชอบธุรกิจแล้ว ก็ต้องลองดูว่าต่อไป เค้าจะเป็นยังไง ”

มุกยังแฮปปี้กับการเป็นนักแสดงในสังกัดใช่มั้ย?

“ ใช่ มุกพึ่งจะเซ็นสัญญาไปค่ะ ต่ออีก 5 ปีค่ะ รวมและก็เป็น 15 ปี เรามิได้มีปัญหา กับค่ายทั้งพี่เมฆทั้งมุกเลย ตอนเซ็นสัญญาใบแรก มุกคิดว่าเราต้องการทำงานเยอะ ๆ เราคาดหมายเยอะ พอสัญญาใบที่สอง เราก็เริ่มขอบทบาทที่มันอยากทำ แต่พอเป็นใบที่สามแล้ว ก็คิดว่าต้องการเป็นตัวเอง ต้องการทำอะไรเราก็ทำ ไม่ต้องการทำหนู ก็ขอบอกได้มั้ย ช่วงนี้มุกก็มุ่งหน้า มาทางธุรกิจเช่นกัน ”

มุก วรนิษฐ์ ปัดแขวะ

“มุก วรนิษฐ์” ต่อสัญญาสังกัดเดิม5ปี แจง คลิปติ๊กต๊อกเป็นคลิปเก่าไม่ได้ พูดถึงใคร

ภายหลังที่ นักแสดงหนุ่มหน้าใสอย่าง “เมฆ จิรกิตติ์ ถาวรวงศ์” พี่ชายของ “มุก วรนิษฐ์” ได้ออกมาประกาศ ไม่ต่อสัญญากับสังกัดเดิม รวมทั้งผันตัวเป็นนักแสดงอิสระ

ล่าสุด น้องสาวอย่าง “มุก วรนิษฐ์” ได้เผย ถึงเรื่องนี้ว่า ” มุกก็ตามใจพี่ชายค่ะ มุกก็คิดว่าหาก เราทำงานวงการต่อมัน ก็มีโอกาสนะ แต่ตัวเขาเอง ก็มีอะไรหลาย ๆ อย่างที่ต้องการทำ ช่วงนี้เขาก็เริ่มถูกใจธุรกิจแล้วด้วย ต่อไปเค้าจะเป็นยังไงก็ยังให้กำลังใจเขา ช่วงนี้เท่าที่รู้ คือเขาพักงานวงการไปก่อนเลย แต่ไม่กี่เดือน เขาขออยู่กับตนเองก่อน ว่าจริง ๆ แล้วตนเองชอบอะไร

ก็นับว่าไม่ใช่ข่าวร้าย ไม่ใช่ข่าวดี ถือว่าเป็นการเติบโต การเปลี่ยนผ่านของชีวิต มิได้ถึงขนาดล่ำลาวงการ ส่วนของมุก ก็พึ่งจะเซ็นสัญญาไปค่ะ ต่ออีก5 ปีค่ะ รวม ๆ และก็เป็น 15 ปี หากจะพูดว่าเรามีปัญหาอะไร กับค่ายหรือเปล่า ต้องพูดว่าไม่มี ทั้งพี่เมฆ ทั้งมุกเลย ก็รักตรงนี้มากค่ะ อย่างสัญญาใบแรกมุก ก็อยากจะทำงานเยอะ ๆ ต้องการลองทำอะไรใหม่ ๆ เยอะๆ ต้องการเล่นซีรีส์เยอะ ๆ เราคาดหมายเยอะ

อย่างสัญญาใบที่สอง เราก็เริ่มต้องการทำบทบาทที่ต้องการทำเพิ่มมากขึ้นค่ะ แต่พอเป็นใบที่สาม ก็คิดว่าต้องการเป็นตัวเอง ต้องการทำอะไร เราก็ทำ ไม่ต้องการทำอะไรหนู ขอบอกได้ไหม ขอความเห็นกันอย่างงี้อะค่ะ ในทางบทบาทมุกมีความรู้สึกว่ามุกต้องการ ทำอะไรที่มันสุขใจ ดูแลสุขภาพ ดูแลครอบครัว 3ปีที่ผ่านมามุกเสียคุณพ่อ ต้องการโฟกัสชีวิตเพิ่มมากขึ้น ไม่ต้องการเสียอะไร ไปอีกอย่างนี้ค่ะ ”

นอกเหนือจากนั้น “มุก วรนิษฐ์” ยังได้ชี้แจงถึง คลิปในติ๊กต๊อก ที่เจ้าตัวลิปซิงก์ เป็นเรื่องราวในประมาณว่าถูกแย่ง คนที่ชอบไป แล้วมีคนเอาไปโยงกล่าวถึงคนอื่นนั้น

ซึ่งสาวมุก ก็ได้เผยว่าคลิปดังกล่าว เป็นคลิปเก่าปีกว่าแล้ว ก็มีคนเอามาลงใหม่ คนก็เอ่ยถึงกัน เอาไปโยง คือตัวเราเราเองไม่เกี่ยวข้อง กับเรื่องของใคร ต้องการบอกว่าทุกคนมันไม่เกี่ยวกับหนูแล้วนะ ช่วงนี้หนูก็แฮปปี้ดี ส่วนสถานะหัวใจช่วงนี้ยังโสด.

 

She Said รีวิวหนัง

รีวิวหนัง “She Said เสียงเงียบของเธอ” ที่บัดนี้เสียงนั้น จุดประกายกึกก้องไปทั่วโลก

หนังสายรางวัล ก็เริ่มคืบคลานมาเปิดฤดูในประเทศไทย แบบเบา ๆ แล้วเช่นกัน ส่งหนังโฉบเฉียดรางวัลเรื่องแรก ๆ ของปีนี้มาด้วย “She Said เสียงเงียบของเธอ” ที่มาพร้อมด้วยประเด็นด้านสังคม สุดฉาวคาวโลกีย์ ที่เปลี่ยนเป็นแรงกระตุ้น และการขับเคลื่อนสิทธิสตรีครั้งใหญ่ ระดับโลกในปัจจุบัน เพียงความพยายามกล้า ที่จะออกเสียงออกมา จากเสียงเล็ก ๆ กลายมาเป็นเสียงตะโกน ที่สนั่น กับเรื่องราว ที่พวกเธอต้องการจะให้โลกได้รับทราบ!

SheSaid เสียงเงียบของเธอ เป็นวีรกรรมของ 2 นักข่าวแห่งสื่อยักษ์ใหญ่ New York Times อย่าง เมแกน ทูเฮย์ กับ โจดี้ คานทอร์ พวกเธอได้ทำการเปิดโปง และเปิดตัวการเคลื่อนไหว ของแคมเปญ #MeToo ที่เปลี่ยนเป็นการขับเคลื่อนสังคมครั้งยิ่งใหญ่ ในรอบทศวรรษ ด้วยการเปิดเผยการกระทำ ชั่วใช้ความรุนแรงทางเพศครั้งประวัติศาสตร์ ที่ฉาวโฉ่ไปทั่ว ทั้งวงการฮอลลิวูด เกี่ยวกับการกระทำของผู้บริหารระดับสูง จากสตูดิโอหนังมีชื่อแห่งหนึ่ง

She Said บัดนี้เสียง

She Said เป็นถ้าว่าคุณเคยชื่นชอบ จากหนังสายรางวัลประเภท หนังสืบสาวเชิงข่าว

อย่าง “Spotlight คนข่าวคลั่ง” ที่ได้ออสการ์ไป หรือ “The Post เอกสารลับเพนตากอน” ที่เคยเด่นบนเวทีรางวัล คุณก็น่าจะหลงใหล และลื่นไหลไปกับหนังเรื่องนี้ ได้ไม่ยาก เพราะว่าโทนของหนัง ก็มาในทิศทางและท่วงทำนองเหมือนกัน

คือเปลี่ยนเป็นหนังดราม่าสืบสาว ที่เกือบจะกลายเป็น เชิงสารคดีข่าวไปแล้ว ในระดับหนึ่ง การเล่าเรื่องทำออกมาได้ออกจะ ดูง่ายและย่อยง่าย คนดูสามารถแตะต้อง ประเด็นต่าง ๆ ของหนังได้อย่างเห็นได้ชัด โดยที่ไม่ต้องใช้ความคิดอะไรเยอะ

นี่เป็นผลงานกำกับ หนังฮอลลิวูดเรื่องแรกเต็มตัว ของนักแสดงสาวชาวเยอรมัน “มาเรีย ชเรเดอร์” ที่อาจจะบอกได้ว่าฝีมือ ของเธอนั้น ก็ออกจะเอาการอยู่ สามารถชูประเด็นและนำเสนอ หนังออกมาได้ในจังหวะที่ใช้ได้ ผลักดันเล่าออกมาได้ออกจะมีอรรถรสดี เพียงแต่ว่าสเกลของหนังบางทีอาจจะค่อนข้างใหญ่เกินไป สำหรับประสบการณ์ ของเธอสักนิดหน่อย ทำให้ยังมีหลาย ๆ ส่วนประกอบที่ยังสัมผัสได้ว่า ไปได้ไม่สุดทาง ทำออกมาได้ยังไม่จัดพอ และยังเต็มไปด้วยส่วนขาด ๆ เกิน ๆ ปนเปออกมาอยู่มาก

โดยหนังเรื่องนี้ ได้นักเขียนฝีมือดี ชาวอังกฤษ “รีเบคก้า เลนคีวิซ” (จาก Disobedience และ Ida) ที่ถือว่าคลุกคลีและถือเอาประสบการณ์ตรงสำหรับในการ ทำงานข่าวเชิงสืบสาวของ เมแกน ทูเฮย์ กับ โจดี้ คานทอร์ มาร้อยเรียงเรื่องราว

หนังอาจจะมีทิศทางการเล่าเรื่อง ที่ออกจะเข้าถึงง่าย และไหลลื่นไปตามกระแสที่ใช้ได้ ถึงกระนั้นก็ยังพบว่า มีบางจุดที่ออกจะย้วยเกินจำเป็น ยืดยานโดยใช้เหตุ ถ้าว่าสามารถกระชับ ในจังหวะการเล่าได้ขึงขังได้อีกนิดหน่อย มีความรู้สึกว่าหนังน่าจะตรึงใจได้มากกว่า

ถึงแม้ She Said มาได้วัตถุดิบและประเด็นชั้นยอด เอามาปรุงรส แต่ก็แอบเสียดาย อยู่เล็กน้อยที่ว่าประเด็น ที่หนักแน่นและยิ่งใหญ่ที่ทรงอิทธิพลขนาดนี้ กลับทำออกมาได้ในแบบที่ ยังไม่ค่อยทรงพลังสักเท่าไหร่ โดยเฉพาะเมื่อนำไป เปรียบเทียบกับหนังเชิงข่าวทั้ง 2 เรื่อง ข้างต้นที่อ้างอิง เข้าไปข้างต้นนั้น

ถือว่าเรื่องนี้ยังออกจะไกลห่างจาก คำว่าเพอร์เฟ็คไปอย่างน่าผิดหวังนิด ๆ เพราะว่าในตอนท้ายหนัง หนังแทบจะไม่ได้สร้างมิติ และลูกเล่น ได้อย่างมีเชิงชั้น เป็นแค่การเล่าเรื่อง ไปตามสูตรแบบจับวาง ตามไทม์ไลน์ที่ควรจะมีเสน่ห์ ได้มากกว่านี้

She Said กึกก้อง

She Said จุดประกาย

ถึงกระนั้นหนังก็ยังโชคดี ที่มีกลุ่มนักแสดงคุณภาพ มาปล่อยของและพ่นไฟ ในหนังเรื่องนี้

ที่ช่วยแบกและพยุงหนังเอาไว้ เกือบจะทั้งเรื่อง “แครี่ มัลลิแกน” กับ “โซอี้ คาซาน” เปรียบได้ว่าเป็นคู่หูนางแบบ ของหนังเรื่องอย่างแท้จริง การแสดงที่ลื่นไหน ของพวกเธอ ถือว่าทำออกมาได้ดี ตามมาตรฐาน เพียงน่าเสียดายอยู่บ้าง เพราะว่าเชื่อว่าพวกเธอ ยังสามารถทำได้ดีมากกว่านี้ ถ้าหากว่าส่วนประกอบของเขา มีความหนักแน่น มากยิ่งขึ้นกว่านี้อีก

“แพทริเซีย คลาร์กสัน”, “อันเดร บรอย์เกอร์” หรือ “เจนนิเฟอร์ เอเล่” ถือได้ว่าเป็นกลุ่มนักแสดงสมทบ ที่มาช่วยเติมรสชาติ ให้กับเรื่องนี้ และอย่างน้อย ๆ หนังก็ยังใส่ลูกเล่น ที่น่าดึงดูดด้วยการเชิญ นักแสดงที่เคยตกเป็นเหยื่อ ในกรณีดังกล่าว มาร่วมแจมรับเชิญในหนังด้วย บางคนจะเป็นตัวเป็นตน หรือบางคนจะมาเพียงแค่เสียง แต่ถือได้ว่าเป็นกิมมิก ที่พยายามช่วยยกระดับ ความทรงพลังให้กับ หนังเรื่องนี้ได้ยิ่งขึ้น และเป็นการส่งสาร ที่สตรองเพิ่มขึ้น

หนึ่งในลูกเล่น ที่ออกจะน่าดึงดูด แม้ว่าจะไม่ใช่อะไร ที่แปลกใหม่เท่าไหร่ นั้นก็ถือถือเอาหลักฐาน จากเหตุการณ์จริง มาใช้ประกอบในหนัง โดยเฉพาะคลิปเสียงต่าง ๆ ของผู้บริหารสตูดิโอหนัง ที่ถูกกล่าวอ้างนั้น ถูกเอามาเปิดใช้ประกอบ ในเรื่องนี้ ถือได้ว่าเป็นจุดที่กล้าได้กล้าเสีย ของหนังไม่น้อย เพราะว่าทำอะไรอย่างงี้ก็เสี่ยง ที่จะถูกฟ้องร้องได้เหมือนกัน แต่เมื่อเจตนาของหนัง ต้องการที่ตีแผ่สังคมและเปิดโปง ในช่วงหนังสารคดีข่าว การเลือกเทคนิคนี้ มาใช้ก็พอจะสมเหตุสมผลด้วยดี

ตกลงว่าโดยภาพรวมแล้วนั้น She Said เสียงเงียบของเธอ ก็นับว่าเป็นหนังสืบสาวเชิงข่าว ที่พอดูได้อย่างจับใ ถึงหนังจะยังไม่ได้เพอร์เฟ็ค ในทุกทิศทาง มีข้อบกพร่องอยู่เต็มไปหมด โดยเฉพาะทิศทางการนำเสนอ ของเรื่องที่ไม่ได้หนักแน่นแข็งแรงเพียงพอ

ทั้งที่ได้ประเด็น ที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้มาเล่น แต่หนังก็ได้ทำหน้าที่ สื่อสารตามเป้าหมายของเรื่องได้อย่างสำเร็จ กับการเป็นกระบอกเสียง ให้กับเพศหญิง ที่ตกเป็นเหยื่อ การใช้ความรุนแรงทางเพศ ที่ให้พวกเธอได้กล้า ที่จะเปล่งเสียงกันออกมา ไม่ใช่แค่ยอมแพ้ เพียงแต่การกดขี่ภายใต้อิทธิพล

ด้วยเหตุดังกล่าว She Said เรื่องนี้ก็เลยเต็มไป ด้วยประโยคและวลีเด็ด ๆ สำหรับการใช้เพียงขับเคลื่อนสังคม เอาไว้มากมาย แต่มีอยู่ประโยคหนึ่ง ที่ทำให้รู้สึกขยะแขยงและหดหู่ใจ ไปในคราวเดียวที่ได้ยินว่า

” กฎหมายก็เป็นแค่เพียงเครื่องมือที่ใช้ปกป้องผู้ที่ละเมิดให้ยังคงอยู่และไปกระทำกับคนอื่น ๆ ต่อ ” ช่างเป็นท่อนคำที่รู้สึกจุกอก เพราะว่า นี่มันเป็นความจริงในสังคม เพราะว่าท้ายที่สุดแล้ว คนธรรมดา ๆ ที่อำนาจเป็นศูนย์ จะไปสู้อะไรได้ กับผู้ที่เรืองรอง อิทธิพลอยู่เต็มสิบ

ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง She Said เสียงเงียบของเธอ

ประเภท: ดราม่า

ผู้กำกับ: มาเรีย ชเรเดอร์

นำแสดงโดย: แครี่ มัลลิแกน, โซอี้ คาซาน

ความยาว: 129 นาที

ระบุฉายในไทย: 1 ธันวาคม 2022 (ในโรงหนัง)

ครอบครัวกวน ป่วนงานแต่ง รีวิวหนัง

รีวิวหนัง “The People We Hate at the Wedding ครอบครัวกวนป่วนงานแต่ง”

ครอบครัวกวน ป่วนงานแต่ง ว่ากัน ว่า..ครอบครัว กับงานแต่งงาน ชอบนำมาสร้างสรรค์ เรื่องเล่าสุดเกิน จะอธิบายได้หลายเรื่องทีเดียว แล้วก็นั่นจึงเปลี่ยน มาเป็นต้นเหตุของ หนังตลกปนวิวาห์ที่มีชื่อว่า “The People We Hate at the Wedding ครอบครัวกวนป่วนงานแต่ง” ที่บางทีอาจจะเป็นเพียง หนังตลกครอบครัวฟอร์มเล็ก ๆ แต่เมื่อได้เห็น แคสติ้งนักแสดงนำ ในหนังเรื่องนี้แล้ว ไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้เลยว่า … ละสายตา แล้วก็ความสนใจ ไปไม่ได้เลย

The People We Hate at the Wedding เรื่องราวของ อลิซ กับ พอล พี่น้อง ที่ยังเจอกับปัญญา ที่ไม่เข้าใจกันและกัน ยืดเยื้อมาหลายปี พวกเขาดิ้นรน อย่างไม่ค่อยเต็มใจ สักเท่าไหร่ ที่จะไปร่วมงานแต่งงานของ เอลูอิส ลูกพี่ลูกน้อง ต่างพ่อที่กำลัง จะจัดขึ้น ในเมืองแทบ ชนบทของอังกฤษ แล้วก็พวกเขาก็ต้องไปพบหน้ากับ ดอนน่า แม่แท้ ๆ ของพวกเขา ที่ถือว่าเป็นงานรวมญาติ ที่เต็มไป ด้วยรอยร้าว ในสัมพันธ์

ครอบครัวกวนป่วนงานแต่ง หลายเรื่อง

ครอบครัวกวนป่วนงานแต่ง มีชื่อว่า

ครอบครัวกวน ป่วนงานแต่ง หนังดัดแปลง มาจากนิยายขายดี ชื่อเดียวกัน ของนักเขียนหนุ่ม “แกรนต์ กินเดอร์”

ผลงานล่าสุดของ ผู้กำกับหญิง “แคลร์ สแคนลอน” ที่เราน่าจะเคยชิน กับเธอ ในหนังรักเฉิ่ม ๆ แต่สนุกดี อย่าง Set It Up เมื่อไม่กี่ปีมานี้ โดยส่วนมากแล้วเธอผู้นี้ ชอบกำกับงานทีวีซีรีส์ อยู่หลาย ๆ เรื่อง แล้วก็นี่เป็นการ กลับมาทำงานหนังใหญ่อีกครั้ง ที่แน่นอน ว่าเธอทราบจังหวะ แล้วก็ท่าทางในการ ทำยังไงให้หนังออกมา ได้สนุก

แต่กลับโชคร้ายไป สักนิดที่นั้น เนื่องจากว่าสุดท้ายแล้วนั้น The People We Hate at the Wedding ก็เป็นเพียงหนังตลก แกมประเด็น ครอบครัวป่วน ๆ

ที่เป็นพล็อตสำเร็จรูป ที่เราเคยเห็นอะไรแบบ มาจากหนังดัง ๆ หลายเรื่อง ตั้งแต่เมื่อ 10-20 ปีให้หลัง ทำให้หนัง ไม่ค่อยมีอะไร ที่สดใหม่แล้วก็แปลกใหม่ ที่สร้างเซอร์ไพรส์ ให้กับผู้ชมสักเท่าไหร่ มากับการเล่าเรื่อง สูตรสำเร็จ ที่จัดมาอย่างเพรียบพร้อม ตั้งแต่เริ่มต้นถึงจบเรื่อง

ถึงแม้หนังจะมีความเด่น เกี่ยวกับการเกลี่ยอัตลักษณ์ แล้วก็สตอรี่ของแต่ละคาแรกเตอร์ ออกมาได้ค่อนข้างจะชัดเจน ทั้งยัง 3 ตัวละครหลัก ต่างมีเรื่องมีราวแล้วก็ปัญหา ของพวกเขาอยู่ ต้องรับมือแล้วก็จัดการ ด้วยตัวของพวกเขาเอง

เพียงแต่ว่าหนังแล้วก็บทหนัง ยังไม่สามารถขยี้แล้วก็บ่มออกมา ให้มีพลังแล้วก็จิตวิญญาณ ได้กว่านี้ ทำให้หลาย ๆ ใจความสำคัญ ที่ดูน่าจะสำคัญ แต่กลับทำเป็นนิ่งเฉย ไปอย่างน่าผิดหวัง เนื่องจากว่าหนังมัว แต่จดจ่อ อยู่กับการใส่ความ ขัดแย้งป่วน ๆ ระหว่างครอบครัวเยอะเกินไป

The People We Hate at the Wedding เป็นหนังที่วางธีม เอาไว้เป็นหนังตลกครอบครัว แบบปั่นป่วนกันภายใน เป็นหนังที่ค่อนข้างจะ เคยเป็นสูตรสำเร็จ ในช่วงเทศกาลปลายปี ของวงการฮอลลิวูด เมื่อสักทศวรรษก่อนที่จะ

เราจะได้เห็น หนังโทนนี้ ออกฉายในโรงในทุก ๆ ปี แต่กาลเวลาผ่านไป หนังแนวนี้ ได้ลดบทบาท เหลือเพียงหนังฉายสตรีมมิ่งแทนแล้ว แล้วก็น่าผิดหวัง ที่ศักยภาพของหนังแนวนี้ ก็ไม่ได้พัฒนา ขึ้นสักเท่าไหร่เลย

ท่ามกลาง แพ็คเกจสำเร็จต่าง ๆ ที่ใส่เข้ามา ในหนังเรื่องนี้นั้น สิ่งที่ดีที่สุดของหนังเรื่องนี้ แล้วก็ช่วยรับหน้าที่ แบกเอาไว้อย่างหนักหน่วง ก็คือทีมนักแสดง ของเรื่อง 3 นักแสดงนำของเรื่องนี้ ทำหน้าที่ของพวกเขา ด้วยความเป็นมือโปร

ถึงแม้บทหนัง จะค่อนข้างจะเปื่อยยุ่ย แต่พวกเขา ก็พยายามเป็นอย่างยิ่ง ที่จะสามารถช่วยประคอง หนังเรื่องนี้ ด้วยทักษะการแสดง จากเสน่ห์ ของพวกเขาเอง

ครอบครัวกวน ป่วนงานแต่ง ไม่ได้

“คริสเตน เบลล์” กับ “เบน แพลต” ต่างมอบ การแสดงที่ เป็นธรรมชาติอย่างดีเยี่ยม

ถึงแม้บทบาท ที่พวกเขาได้รับนั้น จะค่อนข้างจะธรรมดา ๆ แล้วก็ให้รสชาติแบบเดิม ๆ ที่ไม่ได้รู้สึกแปลก ในการรับรสเท่านั้น แอบเสียดาย ที่ปมด้อยในใจ คาแรกเตอร์ที่พวกเขา ได้รับแอบน่าสนใจอยู่ไม่น้อย แต่หนังกลับไม่ได้ ทำการบ่มเพาะจุดนี้ ได้อย่างดี สักเท่าไหร่ กลายออกมา เป็นความจืดชืดบนพื้นฐาน ของแพ็คเกจสูตรสำเร็จ ไปสักนิด

ในระหว่างที่ “แอลลิสัน แจนนีย์” ก็ยังคง มอบการแสดง ที่เป็นตัวเธอ บทนี้ก็เหมือน สร้างสรรค์ให้มาเพื่อเธอ โดยเฉพาะ แต่บทอะไรอย่างนี้นั้น เราก็เคยเห็นเธอ เล่นเอาไว้มาแล้ว จากผลงาน เรื่องก่อน ๆ จึงไม่ค่อยได้เห็น อะไรที่ทำให้เกิดความรู้สึกเซอร์ไพรส์ เป็นการวนลูป ในบทที่ซ้ำ ๆ ที่ต้องยอมรับว่าเธอเอง ก็ยังรับมือ เอาไว้ได้ดีแล้วก็ เป็นมือโปรเป็นอย่างมาก เพียงแต่ทุกสิ่งค่อนข้างจะ สัมผัสลงไปแบบผิวเผินแค่นั้น

ดังนี้ เอาเป็นว่า The People We Hate at the Wedding บางทีอาจจะเป็นหนังตลก ครอบครัวที่มาพร้อมด้วย ความสำเร็จรูป แบบเดิม ๆ ที่ยังไม่ค่อย ข้างมีอะไรแปลกใหม่ออกมา ให้เห็นสักเท่าไหร่ โชคช่วยที่หนัง ได้ทีมนักแสดงนำ มาช่วยรับหน้าที่ เป็นนางแบก ทั้งเรื่องเอาไว้ ได้อย่างมุ่งมั่น แต่ผลที่ออกมานั้น นี่ก็คือหนังป่วนวันวิวาห์ ในแบบที่ไม่ได้เหนือความคาดหมาย อะไรก็ตามเป็นหนังที่ เปิดดูเล่น ๆ ผ่าน ๆ ไป ที่ยังไม่มีอะไร เป็นมีมแล้วก็น่าจดจำ อะไรได้สักเท่าไหร่เลย

ข้อมูลเกี่ยวกับหนัง The People We Hate at the Wedding

ประเภท: ตลก

ผู้กำกับ: แคลร์ สแคนลอน

นำแสดงโดย: เบน แพลต, คริสเตน เบล์, แอลลิสัน แจนนีย์, ซินเธีย แอดดัย-โรบินสัน

ความยาว: 99 นาที

กำหนดฉายในไทย: 18 พฤศจิกายน 2022 (ที่ Prime Video)

Black Panther น้องริริ

น้องริริ Ironheart ตัวตึงวาคานด้า จะเป็นยังไงต่อไป หลังจบ “Black Panther 2”

Black Panther : Wakanda Forever ไม่ได้เป็นเพียงหนัง ที่อุทิศให้ กับการจาก ไปของแชดวิก โบสแมนเพียงแค่นั้น แต่ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ ยังได้เปิดตัว ตัวละครใหม่ ที่เป็นเหมือนผู้สืบทอด ตำนานชุดเกราะเหล็ก สาวน้อยอัจฉริยะ ที่ความปราดเปรื่องของเธอ ชักนำให้เธอ ไปสู่ศึกระหว่าง วาคานด้า

รวมทั้งทาโลคาน ริริ วิลเลียมส์ ในสมญานาม Ironheart ที่ ขอบอก เลยว่าเธอ คนนี้มีเสน่ห์ ไม่น้อยเลยทีเดียว เป็นคนที่สามารถ ทำให้นายพล สุดแกร่งของหน่วย โดรามิลาเจ ถึงกับเสียเซลฟ์ได้ ทำให้เธอคือ หนึ่งในตัวตึง วาคานด้าเลยทีเดียว แต่ว่าคำถาม ก็คือเรื่องราว ของเธอหลังจาก จบภาพยนตร์เรื่องนี้ จะเป็นยังไงถัดไป

Black Panther ตัวตึง

เรารู้กันแค่ว่า Ironheart จะมีซีรีส์ ที่มาเล่าเรื่องของตัวเองต่อ Black Panther

มันจะออกมาเป็นยังไงนั้น ล่าสุด Dominique Thorne เจ้าของ บทริริ วิลเลียมส์ ได้ ให้สัมภาษณ์กับ Screen Rant ว่า…

“ มันเป็นคำถาม ที่จะคำตอบ มันรออยู่แล้ว ในซีรีส์ ที่จะฉายปีหน้าค่ะ

แต่ว่าฉันรู้สึกว่าหลายสิ่ง ที่เราได้เห็นริริใน Wakanda Forever คือจุดเริ่มต้น ของการแสดง

ให้เห็นความทะเยอทะยาน ของเธอ รวมทั้งเริ่มเข้าใจว่า แท้จริงแล้ว มันหมายความว่อะไร

ในหนังได้ มีการบอกใบ้ อยู่แล้วค่ะ เธอได้กลับไปที่ MIT แล้วก็มีธุรกิจเล็ก ๆ ของตัวเองอยู่

กระทั่งเธอได้เห็น โลกที่กว้างขึ้น แล้วเธอก็ไม่มีทางเลือก อื่นนอกเหนือจากต้องเผชิญหน้ากับมัน

ฉันรู้สึกว่า การเผชิญหน้านั้น เธอไม่ได้มีอะไรเลย นอกเหนือจากความฉลาด ของตัวเอง

นั่นมันทำให้น่าดึงดูด ในตัวของมันเองเลยค่ะ ถ้าเกิดทุกคนแลเห็นสิ่งเหล่านั้น

พวกเขาก็บางทีอาจจะ ชื่นชอบสิ่งที่ กำลังจะเกิดขึ้น ในซีรีส์ ที่จะฉายปีหน้า ด้วยเหมือนกันนะคะ ”

 

สิ่งที่น่าดึงดูด ในตัวของริริ วิลเลียมส์ ก็คือ เธอมีความอัจฉริยะ ประเภทที่ทัดเทียมกับชูริ

เธอสามารถ สร้างชุดเกราะนี้ ขึ้นมาได้ แต่ว่าสิ่งที่ทำให้ เธอต่างจากโทนี สตาร์

ก็คือ เธอไม่ใช่มหาเศรษฐี เธอเป็นแค่ เด็กธรรมดา

ที่ต้องฝ่าฟันชีวิต มันน่าดึงดูดที่ว่า เธอจะสามารถ ใช้ความอัจฉริยะของตัวเอง

ออกมาเช่นไร แล้วจะ สร้างชุดเกราะของตัวเอง ขึ้นมา ในรูปแบบไหน

นี่ทำให้ Ironheart เป็นอีกตัวละครหนึ่ง ที่น่าติดตามต่อ เลยทีเดียว

 

“Black Panther: Wakanda Forever” ประกาศศักดา..มุ่งหน้า 200 ล้านบาท หลังจาก “ Marvel Studios’ Black Panther: Wakanda Forever แบล็ค แพนเธอร์ วาคานด้าจงเจริญ ” ภาคต่อ ภาพยนตร์ซูเปอร์ วีรบุรุษฟอร์มยักษ์ ระดับตำนาน

ก็หวนมา ทำสถิติ เปิดตัวยิ่งใหญ่ ที่สุดใน จักรวาลมาร์เวล พร้อมปิดเฟส 4 ของจักรวาลมาร์เวล อย่างสวยงามรวมทั้งยิ่งใหญ่

ใกล้ถึง สถิติภาพยนตร์ ของจักรวาลมาร์เวล ที่ทำเงินสูงสุด ตามติด Marvel Studios’ Doctor Strange in the Multiverse of Madness : จอมเวทย์มหากาฬ ในมัลติเวิร์สมหาภัย

ช่วงนี้ที่กำลัง มุ่งสู่ 200 ล้านบาท ที่เหล่าสาวก รวมทั้งแฟนคลับ มาร์เวลต้องห้ามพลาด

นักวิพากษ์วิจารณ์ รวมทั้งผู้ชมต่างลงความเห็น ไปในทำนองเดียวกันว่า

บทภาพยนตร์ถ่ายทอด อารมณ์ความรู้สึก ของตัวละครรวมทั้ง เรื่องราว ได้อย่างเข้มข้น รวมทั้งลึกซึ้ง ที่สุดเท่าที่ เคยปรากฏ ในจักรวาลมาร์เวล การถ่ายทอด เรื่องราวของสงคราม การสูญเสีย ซ้ำไปซ้ำมาของวาคานด้า

รวมทั้งการจากไป ของ ที ชัลล่า ซึ่ง การถ่ายทอด เรื่องราวทั้งหมด ของภาพยนตร์ ที่ความยาวเกือบจะ 3 ชั่วโมง ถือเป็นปรากฏการณ์สำคัญ ของยุคแห่งมาร์เวล ก็ว่าได้ ด้วยฝีมือการควบคุม การแสดงจากไรอัน คูเกลอร์ (Ryan Coogler) กับคำนิยาม จากนักวิจารณ์ว่า “ ภาพยนตร์ ที่เปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณ รวมทั้งอารมณ์ความรู้สึก ”

Black Panther วาคานด้า

อีกหนึ่ง ไฮไลท์สำคัญ ที่ทำให้นักวิพากษ์วิจารณ์ เทคะแนน ให้กับหนังเรื่องนี้ คือ ฝีมือการแสดง

ของเหล่านักแสดง ที่ผู้ชมคุ้นตา นำทีม โดย แองเจลา บาสเซตต์ (Angela Bassett) เลทิเทีย ไรท์ (Letitia Wright) ลูพีตา ญองอ (Lupita Nyong’o) วินสตัน ดุ๊ก (Winston Duke) ลูพีตา ญองอ (Lupita Nyong’o) รวมทั้งโดยเฉพาะอย่าง เตนอช เวร์ตา (Tenoch Huerta)

ที่ฝากฝีมือ ในบทเนมอร์ (Namor) เจ้าผู้ดูแลใต้มหาสมุทรทาโลแคน ได้อย่างยิ่งใหญ่ ทรงอำนาจ รวมทั้งมีสเนห์ สมกับที่สาวก มาร์เวลรอคอยการมาถึง รวมทั้งโดมินิก ธอร์น (Dominique Thorne) กับบทรีรี วิลเลียมส์ หรือ Iron Heart ที่ได้ใจ ผู้ชมไปเต็ม ๆ

มากไปกว่านั้น วิธีการถ่ายทำ การลำดับภาพ เสื้อผ้ารวมทั้งแฟชั่น ในภาพยนตร์ ที่สร้างสรรค์รวมทั้งถ่าย ทอดออกมา ได้อย่างงดงาม ทั้งยังฝั่งวาคานด้า รวมทั้งทาโลแคน ประกอบกับ ดนตรีประกอบภาพยนตร์ ที่ถูก แต่งขึ้นเพื่อเชิดชูภาพยนตร์

รวมทั้งแบล็ค แพนเธอร์ โดยเฉพาะ เต็มเปี่ยมไป ด้วยอารมณ์ ความรู้สึกถึง การสูญเสีย รวมทั้งพลังสำหรับในการต่อสู้ เช่น เพลง “ Lift Me Up ” ที่ได้ Rihanna ซูเปอร์สตาร์ระดับโลก หวนจับไมค์อีกรอบ ในรอบหลายปี เพื่อมอบให้ กับช่วงชีวิต ที่แสนพิเศษรวมทั้งตำนาน ของแชดวิก โบสแมน

 

“ นิว ฐิติภูมิ เตชะอภัยคุณ ” สาวกมาร์เวล ตัวยงหลังจากที่ได้ดู ภาพยนตร์จบแล้ว ถึงกับพูดว่า “ ภาพยนตร์เรื่องนี้ เป็นภาพยนตร์ ที่เยี่ยมที่สุด แห่งปีของ จักรวาลมาร์เวล ที่ทุกคนต้อง ห้ามพลาด ภาพยนตร์ ถ่ายทอด เรื่องราวความรู้สึก ออกมาได้อย่าง น่าทรงพลังตลอดระยะเวลา

เกือบจะ 3 ชั่วโมง ดูจบแล้วคือ ต้องมาดูรอบ 2 เพิ่ม อย่างแน่นอน ยืนยันว่า ออกมาจากโรงภาพยนตร์ จะน้ำตาคลอเบ้าอย่างไม่ต้องสงสัย ห้ามพลาด มาดูในโรงภาพยนตร์ เท่านั้นนะครับ ”

 

ด้าน “ แอนนา เสืองามเอี่ยม ” เล่าความ รู้สึกว่า “ ต้องการเชิญชวนแฟนมาร์เวล หรือ แฟนภาพยนตร์ ทุกคนมาดู Marvel Studios’ Black Panther: Wakanda Forever แบล็ค แพนเธอร์ วาคานด้าจงเจริญ เพราะว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ ถือเป็นผลงาน มาสเตอร์พีซ ที่สร้างสรรค์ขึ้นมา เพื่อสร้างการ เปลี่ยนแปลงจริง ๆ

นอกนั้น มาร์เวล ยังวางพลอต เรื่องที่ให้ ซุปเปอร์วีรบุรุษหญิง หรือนักรบหญิง ได้โชว์ความสามารถ อย่างเต็มเปี่ยม รวมทั้งมีเซอร์ไพร์ ตลอดทั้งเรื่อง ที่ไม่ควรพลาด บอกเลยว่าต้องตระเตรียมกระดาษ หรือผ้า มาซับน้ำตานะคะ รับดูได้แล้ว วันนี้ทุก โรงภาพยนตร์ รีบดูก่อน โดนสปอยล์ค่ะ ”

 

ร่วมสาน ต่อความ มันส์ ระดับตำนาน ของภาคต่อภาพยนตร์ ซูเปอร์ฮีโร่ฟอร์มยักษ์ ที่ทุกคนห้ามพลาด กับ “Marvel Studios’ Black Panther: Wakanda Forever แบล็ค แพนเธอร์วาคานด้าจงเจริญ” ตั้งแต่ วันนี้ เป็นต้นไป ต้องดู ในโรงภาพยนตร์เท่านั้น รวมทั้ง รีบดูก่อนโดนสปอยล์

 

สกาย วงศ์รวี พลิกบท

“สกาย วงศ์รวี” พลิกบทจับคู่แม่-ลูก “ปาน” คลุกคลีวงการลอตเตอรี่ รู้ตัวไม่ได้มีพรสวรรค์

กลับบท คลุกคลีวงการลอตเตอรี่ “ปฏิบัติการกู้หวย” หนังไทยสุดฮาจาก Netflix รับรองโดยผู้กำกับสายคอมเมดี้ “พฤกษ์ เอมะรุจิ” พร้อมสตรีม 16 พ.ย.นี้ ทำเอาพระเอก หนุ่มหน้าใส “สกาย-วงศ์รวี นทีธร” สุดตื่นเต้น จะต้องมา รับบทเป็น ลูกชาย นักร้องสาวดีว่า “ปาน-ธนพร แวกประยูร” เป็นเคมี แม่ลูกสุดสนุก กับภารกิจ สุดปั่นของคนกลุ่มนึง โชคดีถูกลอตเตอรี่ รางวัลที่ 1 แต่ลอตเตอรี่ กลับถูกแก๊งมาเฟีย ช่วงชิงไป เลยชวน สกายมาเปิดใจ

เรื่องนี้ ผมสวมบทเป็นเต เป็นลูกของ แม่ต้อย ที่แสดง โดยพี่ปาน-ธนพร เป็นครอบครัว ที่อยู่กันสองคนแม่ลูก ด้วยเหตุว่าพ่อทิ้งไป มีภรรยาใหม่ตั้งแต่เตยังเด็ก

แม่ต้องหาเลี้ยงอยู่ตามลำพัง หางาน เปลี่ยนงาน ไปเรื่อย ๆ กระทั่งย้าย มากรุงเทพฯ แล้วเจองาน ที่ใช่เป็น การขายลอตเตอรี่ เป็นอาชีพหลัก ในการทำมาหากิน

สกาย วงศ์รวี จับคู่

สกาย วงศ์รวี คลุกคลี

ความท้าทาย ในบทนี้เป็นเรื่องของ การที่จะต้องไปศึกษา อินเนอร์ของผู้ขายลอตเตอรี่

รวมทั้งความรู้สึก ของการอยากมีชีวิต การเป็นอยู่ที่ดียิ่งขึ้น ซึ่ง ในเรื่องนี้ผู้แสดง หลักทั้ง 5 คน เป็นคนหาเช้า กินค่ำที่มีเป้าหมาย ในชีวิต ว่าอยากให้ตนเอง แล้วก็คนที่ เค้ารักมีชีวิตการเป็นอยู่ที่ดียิ่งขึ้น

ซึ่ง สิ่งที่จะช่วยให้บรรลุเป้าหมาย ได้อย่างเร็วที่สุด ก็คือการ ถูกลอตเตอรี่ รางวัลที่หนึ่ง ด้วยเหตุนี้ เตในฐานะ ผู้ขายก็ มีความเชื่อนี้ เหมือนกัน นอกเหนือจากขายลอตเตอรี่ และก็จะเก็บลอตเตอรี่ ไว้เองหนึ่ง ใบในทุกงวด”

เรื่องนี้ จะต้องสวมบทเป็น แม่ลูกกับพี่ปาน-ธนพร การทำงานเป็นยังไง?

“ ดีแล้วก็สนุกครับผม พี่ปาน เป็นคนที่ทำงาน มือโปรมาก ทำอะไร ก็พร้อมทำสุดตัว พี่ตุ๋ย-พฤกษ์ ผู้กำกับ ต้องการที่จะให้ทำอะไรก็ทำ และเป็นคนสบาย ๆ เวลาพักกอง ก็ชวนคุยตลอด ตอนต้นที่เจอกัน พี่เค้าเป็นผู้ใหญ่ ผมก็เกรงใจ เค้าไม่กล้าชวนคุยมาก แต่พี่ปาน ก็มาคุยเรื่องต่าง ๆ เรื่องปฏิบัติธรรมบ้าง ก็สนุกดีครับผม พี่ปานเป็น คนมีพรสวรรค์ ในการแสดงมาก เพราะว่าเค้าเคย เล่นละครเวที มาก่อน

ผมมีความคิดว่า คนที่เล่นละครเวที มาก่อนแล้ว มาเล่นหนัง ซีรีส์ ละคร จะสามารถสื่อสาร ออกมาได้ ถึงคนดูได้ดี เพราะว่าเวลา เล่นละครเวที ก็จะต้องส่ง การแสดงไป ถึงผู้ชม ที่อยู่ไกล 100 เมตร

ก็จะต้องส่งไป ให้ถึง เพราะว่าด้วยเหตุนั้น เรื่องของการสื่อสาร อินเนอร์ในการแสดง ไม่เป็นปัญหา สำหรับพี่ปาน อยู่แล้ว ถ้าเกิดถามถึง ความประทับใจ ทุกคนตั้งอกตั้งใจ มาถ่ายทำเรื่องนี้ เพราะว่าเรื่องนี้ เป็นภาพยนตร์โดย Netflix ด้วย

แล้วก็ทุกคน ก็ตั้งอกตั้งใจ ทำออกมาอย่างมาก แต่ละคน ก็มีความชำนาญของตนเอง อย่างพี่แจ๊ส ชวนชื่น พี่แพท-ณปภา พี่สมจิตร จงจอหอ ก็จะถนัด ด้านคอมเมดี้

ฝั่งพี่ปาน มินนี่-ภัณฑิรา ถนัดเรื่อง ของอินเนอร์ ผมมีความคิดว่า เป็นการรวมตัวกัน ที่ค่อนข้างหลากหลาย แล้วก็ เมื่อผลงาน ออกมาก็คงจะ มีอะไร ที่สนุก ให้ผู้ชม เสมือนที่ พี่ตุ๋ย ผู้กำกับ ให้คำนิยาม เรื่องนี้ว่า เป็นดาร์กคอมเมดี้

เป็นมีความสู้ชีวิต นิดนึง ไม่ได้มี ความคอมเมดี้จ๋า ๆ ผมเห็นว่าความสนุก อยู่ที่เรื่องลอตเตอรี่ ที่เป็นแกนหลัก เพราะว่าผมมีความคิดว่า ลอตเตอรี่

เป็นอะไรที่สามารถ สื่อสารได้ กับทุกคน ลอตเตอรี่ ราวกับกับเป็น ความบันเทิง ของคนไทย แล้วก็ อยู่ในรากเหง้าของคนไทย หลายชั่วอายุคน ก็เลยคิดว่าผู้ชม จะสามารถเข้าถึง สิ่งนี้แล้วก็ อินไปกับเนื้อหา ของเรื่องได้”

เป็นตอนที่มีผลงาน แสดงตลอด รู้สึกยังไง ถึงความฮอต ในช่วงนี้?

“ ก็ดีครับผม มีผลงานตลอดให้ได้ดูกัน ”

มองการทำงาน ที่เติบโตของตนเอง ณ ขณะนี้ยังไง?

“ ผมเห็นว่าราวกับ เป็นสเต็ปของตนเองไปเรื่อย ๆ ครับผม เพราะว่าเข้าวงการ มาตั้งแต่ ม. 4 เดี๋ยวนี้ ก็ 8-9 ปีแล้ว

ก็ราวกับค่อย ๆ ไต่ไปเรื่อย ๆ ราวกับพอเรา ผ่านไปเรื่องนึง ก็จะเจอเรื่องใหม่ ที่มันมีกำแพง ที่เราจะต้อง ก้าวผ่านไป ได้เรื่อย ๆ แล้วผมก็เป็น คนที่ไม่ได้ เป็นนักแสดง ที่มีพรสวรรค์ อะไรอยู่แล้ว ก็จะต้องเพียรพยายามถัดไปเรื่อย ๆ ในทุก ๆ เรื่อง แล้วก็ตั้งมั่น ทำในทุก ๆ โปรเจกต์ ให้มันออกมาดียิ่งขึ้น เรื่อย ๆ ไม่มีคำ ว่าจบใน การพัฒนาตนเอง”

มีบทบาทไหน ที่สนใจอยากแสดงภายหลังจากนี้?

“ ผมอยากเล่น แนวทริลเลอร์ ทริลเลอร์แบบดาร์ก ๆ แล้วก็ แนวแอ็กชัน ที่มีคิวบู๊ จะต้องมีคิว มีบล็อกกิ้ง มีความรู้สึกว่าคงจะสนุก ”

ฮอตอย่างงี้เรื่องหัวใจ เดี๋ยวนี้เป็นยังไงบ้าง ยังไม่มีแฟนอยู่รึเปล่า?

“ ก็เหมือนเดิมครับ (หัวเราะ) ยังไม่มีแฟนอยู่ เพิ่งมีเพื่อนครับผม (หัวเราะ) ”

ณ ขณะนี้ สาวในสเปกเป็นไง หรือเจอคนแบบไหน ที่จะทำให้สกายแพ้ทาง?

“ อืม ที่จริงแล้วผม ไม่เคยกำหนดสเปกเลย ถ้าเกิด เป็นแต่ก่อน จะชอบคนผมยาว ด้วยเหตุว่าตอนเด็ก ๆ นอนเล่น กับแม่แล้ว ชอบม้วนผม แม่เล่น (หัวเราะ) ”

 

สกาย วงศ์รวี วงการ

ประวัติ สกาย วงศ์รวี นทีธร

สกาย วงศ์รวี นทีธร ดาราชาย สังกัดนาดาวบางกอก

เกิดวันที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2541

ปัจจุบันนี้อายุ 23 ปี สกายเริ่ม เข้าสู่วงการบันเทิง จากรายการ Hormones The Next Gen รายการ ค้นหา นักแสดง หน้าใหม่ ที่จะมาแสดง ในซีรีส์เรื่อง ฮอร์โมน วัยว้าวุ่น โดยรายการ ได้มาถ่าย ที่โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย Ffp ในเวลาที่ทีมงาน กำลังจะกลับ ก็ได้เจอสกาย กำลังเตะบอลอยู่ กับเพื่อน

ก็เลยได้ชักชวนให้เข้ามา ประกวดกระทั่งเขา ได้ผ่านเข้ารอบ ไปถึงรอบ 40 คนสุดท้าย แล้วก็สกาย ก็ได้มารับบทเป็น พละ ผู้มีเชื้อเอชไอวี ตั้งแต่เกิด ในซีรีส์ ฮอร์โมน วัยว้าวุ่น ซีซั่น 3 ก็ทำให้สกาย มีชื่อเสียงแล้วก็ ได้เข้ามาเป็น นักแสดงในสังกัด นาดาวบางกอก

ถัดมา สกาย วงศ์รวี นทีธร ได้มีผลงาน การแสดงใน I Hate You, I Love You โดยเขา ได้รับบท โจ หนุ่ม ขายบริการริมทาง แต่การแสดง ในเรื่องนี้ ได้เสียงตอบรับ ที่ไม่ดีเท่าไรนัก

เพราะว่าสกายภาพลักษณ์ ไม่เหมือน ผู้ชายขายบริการ แล้วก็พูดไม่ชัด ที่มาจากการ ที่สกาย เป็นคนเงียบ ๆ ไม่ค่อยพูด ทำให้กล้ามเนื้อที่ลิ้น ไม่ค่อยทำงาน

แล้วก็ในปีพ.ศ. 2560 สกาย ได้แสดงในซีรีส์ Project S The Series ตอน Side by Side พี่น้องลูกขนไก่ โดยเข้าได้รับ การเสนอ ชื่อให้เข้าชิง รางวัลนักแสดงสมทบชาย ของรางวัลนาฏราช ครั้งที่ 9 แล้วก็ปีพ.ศ. 2562 สกาย ก็ได้แสดงเรื่อง My Ambulance รักฉุดใจนายฉุกเฉิน แล้วก็เขายัง ได้ร้องเพลงประกอบซีรีส์ ในเพลง Love Message ร่วมกับ ซันนี่ สุวรรณเมธานนท์ อีกด้วย

ติดตามไอจี สกาย วงศ์รวี นทีธร @skywongravee

 

ฟิล์ม ธนภัทร บัตรแฟนมีต

“ฟิล์ม ธนภัทร” ดีใจ บัตรแฟนมีต ขายหมดเกลี้ยงใน 1 นาที ขอบคุณแฟนจากใจ

ทำเอาหนุ่ม “ฟิล์ม ธนภัทร กาวิละ” ถึงกับปลื้มสุด ๆ หลังจากประกาศ จัดงานแฟนมีตครั้งแรก ที่จะจัดขึ้น ในวันเสาร์ที่ 3 ธ.ค. ที่ Lido Connect Hall 2 กับงาน Film’s First Fan Meeting ซึ่งปัจจุบัน ได้ทำการ เปิดขายบัตร เป็นวันแรก เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 10 เดือนพฤศจิกายนก่อนหน้านี้ ตั้งแต่เวลา 12.00 น. และ สร้างปรากฎการณ์

ขายบัตร ได้หมดเกลี้ยง ภายในช่วงระยะเวลา 1 นาที เท่านั้น อยากรู้หนุ่มฟิล์ม รู้สึกอย่างไร? ไปฟังกันเลย

“ ดีใจมาก ๆ เลยครับ ที่งานแฟนมีต ครั้งแรกของผม ได้รับการตอบกลับเป็นอย่างดี ตอนแรก ผมก็ตื่นเต้น แอบลุ้นว่าบัตร จะหมดวันไหน? พอทีมงาน โทร.มาบอกว่า “ฟิล์ม ๆ บัตรขายหมดแล้วนะ หมดตั้งแต่นาทีแรก ที่เปิดขายเลย” ผมก็ช็อตไปนิดนึง ตกใจเหมือนกันครับ เพราะว่าเราไม่คิด ว่าจะได้รับ การตอบรับจาก แฟนคลับ ดีขนาดนี้

หมดเกลี้ยง ฟิล์ม ธนภัทร

อยากขอบคุณ แฟน ๆ ทุก ๆ คน ที่คอยสนับสนุน ฟิล์ม ธนภัทร

คอยเป็นกำลังใจ ให้ผมมาโดยตลอด ไม่ว่าผมจะทำงานอะไร หรือ มีโปรเจกต์อะไร ออกมาก็ตาม ขอบคุณจากใจจริง ๆ ครับ ซึ่งในงานแฟนมีตคราวนี้ ผมยังได้ แขกรับเชิญ สุดพิเศษ อย่าง “แจม รชตะ” และ “ตงตง กฤษกร” มาร่วมสร้างสีสัน ความสนุก ความฟินให้แฟนคลับ กรี๊ด ตลอดทั้งงานอย่างแน่นอน ส่วนตัวผมเอง ก็จัดเตรียม ทำเซอร์ไพรส์แฟนคลับ ไว้เช่นเดียวกัน ต้องการให้ทุกคน มาลุ้นไปพร้อม ๆ กัน สุดท้ายก็อยากบอก กับทุกคนว่า ขณะนี้ผมนับถอยหลัง เพื่อที่จะได้ไปพบ คุณทุกคนแล้ว อยากให้มาพบกันเยอะ ๆ นะครับ ส่วนใคร ที่ซื้อบัตรไม่ทัน ก็ขอให้ติดตามที่ เพจ “one connection” กันไว้ให้ดี นะครับผม ว่าจะมีประกาศ ให้ซื้อบัตรเพิ่ม ในทางอื่น ๆ อีกมั้ย เพราะว่าผมเอง ก็ต้องการให้ทุกคน ได้มารวมตัวกันเยอะ ๆ อยากยิ้ม อยากแชร์ความสุข ความสนุก และ เก็บโมเมนต์เหล่านี้ ไปร่วมกันกับทุก ๆ คนเลยครับผม ”

ติดตามข่าวสาร และ ความเคลื่อนไหวของงานแฟนมีต Film’s First Fan Meeting ของหนุ่ม ฟิล์ม ธนภัทร ที่เพจ “one connection”

ก่อนหน้าหน้า หนุ่มฟิล์ม ธนภัทร เคลียร์ปมมือที่ 3 ปราง-โต้ง เลิกกัน ภายหลังที่นางเอกสาว ปราง กัญญ์ณรัณ วงศ์ขจรไกล ออกมา เปิดใจยอมรับ เคลียร์ถึงความสัมพันธ์ กับอดีตแฟนหนุ่ม นักร้องดัง โต้ง พิทวัส พฤกษกิจ หรือ โต้ง ทูพี ที่จะต้องปิดฉากความรัก 10 ปี อีกหนึ่งพระเอกหล่อ ที่ถูกโยงเอี่ยว เป็นมือที่ 3 ทำรักของทั้งคู่ จะต้องพังลง ซึ่งก็คือ หนุ่ม ฟิล์ม ธนภัทร กาวิละ ก็จะต้องรีบออกมา เคลียร์ทันที ในงานแถลงข่าว เปิดผังละคร ช่องวัน 31

ซึ่งหนุ่ม ฟิล์ม ก็ได้ชี้แจง เกี่ยวกับประเด็นทั้งหมด พร้อมย้ำชัด ถึงสถานะกับ ปราง เอาไว้ว่า “ก็คือเรื่องธรรดา เราทำงานร่วมกันสนิทกัน และเค้าก็ มีข่าวพอดี มันก็ไม่แปลกที่จะ ถูกโยง ถูกจับตามอง ส่วนตัวผม ไม่ได้ซีเรียสครับ ผมคิดว่าก็เป็นปกติ อยู่แล้วไม่ได้ซีเรียสอะไร ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมาก็มีคุยกับปรางบ้าง ก็เข้าใจเขา ตั้งแต่ต้น แต่ว่าบอกเลยว่าก็ ไม่ได้มีอะไรจริง ๆ

ส่วนที่คนมองว่าเรา เป็นคนมาดามใจ ปราง ในช่วงนั้น เนื่องจากว่าสนิทกัน มากกว่า เราเล่นกัน เหมือนเป็นพี่น้องกัน คือ ด้วยความ เป็นพระเอก-นางเอก ผมคิดว่าการที่พวกเราสนิทกัน มันทำให้เรา กล้าที่จะเล่น แล้วเต็มที่ เต็ม 100 ทั้งสองฝ่าย มันก็ ทำให้ผลงาน ของเราออกมาดี ผมก็เลย ไม่ได้ซีเรียส กับคำนี้สักเท่าไหร่ เพราะว่าเราก็รู้อยู่แล้ว ว่ามัน จะต้องถูกโยง คือเรื่องธรรดา

ส่วนตัว ปราง และก็เป็นปกติทุกอย่างเลย ซึ่ง ก็มีมาปรึกษา พูดคุยกับเราบ้าง นิดหน่อย และก็ให้กำลังใจ บอกเขาว่า พี่เลือกอะไร มันก็เป็น สิ่งที่ดีที่สุด สำหรับพี่ ส่วนตัวผม ไม่ได้ซีเรียสครับผม เพราะว่าเรารู้อยู่แก่ใจ อยู่แล้วว่าเราไม่ได้ เข้าไปอยู่ ในความสัมพันธ์แบบนั้น คือเราเข้าไป ในความสัมพันธ์ แบบเป็นพี่น้องกัน เพื่อนร่วมงานกัน เราจริงใจตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว ก็เลยคิดว่า ไม่ได้ซีเรียส กับข่าวนี้

ส่วนตัว ฟิล์ม ก็ยอมรับ ว่าเราก็ชื่นชอบ ปราง อยู่แล้ว หมายถึงว่า เราปลื้มเขา ด้วยความสวยของเขา แต่ว่าอย่างที่ พูดว่าผมเข้าหา พี่ปรางด้วยความสัมพันธ์ ที่เป็นพี่น้องกัน ตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว เราก็เลย คิดว่าเป็นแบบนี้ มันดีที่สุด ผมว่า มันคือเรื่องของ อนาคตจริง ๆ อะ แต่ว่าทุกวันนี้มันเป็นความสัมพันธ์แบบพี่น้องจริง ๆ และ สบายใจ ที่มันเป็นแบบนี้จริง ๆ ผมว่าเป็นแบบนี้ ตอนนี้ มันดีที่สุดแล้ว อนาคตก็เรื่องของมัน

เคลียร์ชัด ว่าไม่มีอะไรจริง ๆ แต่ว่าหากถาม ปราง น่ารัก ตรงสเปกไหม คิดว่าพอแก่ ก็เริ่ม ไม่มีสเปกแล้วอะ แต่ว่าถามสวยไหม สวย สวยมาก สวยครับ แต่ว่า ไม่มีอะไรจริง ๆ ครับ” งานนี้ เราก็จะต้องรอติดตาม ความสัมพันธ์ ของคู่นี้กันถัดไป แต่ว่าสถานะเดี๋ยวนี้ ชัดเจนว่า ฟิล์ม-ปราง เป็นเพียงแค่พี่น้องกันเท่านั้นนะจ๊ะ

ขอบคุณแฟน ฟิล์ม ธนภัทร

ประวัติ ฟิล์ม ธนภัทร กาวิละ

ฟิล์ม ธนภัทร กาวิละ เกิดวันที่ 20 ม.ย. พ.ศ. 2536 ที่จังหวัดสระบุรี เรียนจบระดับมัธยมศึกษา ตอนปลาย จาก โรงเรียนสระบุรีวิทยาคม ระดับอุดมศึกษา จากคณะบริหารธุรกิจ สาขาการเงิน มหาวิทยาลัยกรุงเทพ โดยฟิล์ม ได้รับเกียรตินิยม อันดับ 2 เคยเป็น สจ๊วตสายการบิน ไทยไลอ้อนแอร์ และเคยแข่งขัน DUTCHIE BOY & GIRL 2013

เข้าวงการจากโครงการ “รักฝุ่นตลบ Casting Project” เพื่อค้นหานักแสดงหน้าใหม่ ที่จะเซ็นสัญญา เป็นนักแสดงในสังกัด เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ และร่วม แสดงในซีรีส์ “รักฝุ่นตลบ” มีชื่อเสียง จากการรับบทบาท หมออินทัช ใน “เสน่หา Diary ตอน กับดักเสน่หา” และ เพชร ใน “เรือนเบญจพิษ” ผลงานเรื่อง “เมีย 2018” ในบท วศิน ทำให้ฟิล์ม เข้าครองใจ ผู้หญิง มากขึ้น และในปี พ.ศ. 2562 ฟิล์ม ได้ผันตัว เป็นนักร้องเต็มตัวครั้งแรก และร้องเพลง ในชีวิตแรกอย่างเพลง คนเดียว กับ อภิวัฒน์ พงษ์วาท

ผลงานละครโทรทัศน์

ปี 2558

เจ้าสาวของอานนท์ รับบท เทอด

ปี 2559

เราเกิดในรัชกาลที่ ๙ เดอะซีรีส์ ประชาชนที่มาร่วมจุดเทียนถวายความอาลัย

ปี 2560

กับดักเสน่หา รับบท น.พ.อินทัช เอกเอื้องอังกูร

ปี 2561

เรือนเบญจพิษ รับบท เพชร
เมีย 2018 รักเลือกได้ รับบท วศิน สินสิริเตชินทร์
หน้ากากแก้ว รับบท รัฐ เกริกไพบูลย์

ปี 2562

ภูตพิศวาส รับบท มารุต กสิกรรม

ปี 2563

รักแลกภพ รับบท พิริยะ ธนาพิทักษ์ (พีท) / พิศ / เพียร ธนาพิทักษ์
ฉันชื่อบุษบา รับบท สรัล
พายุทราย

ปี 2565

ฟ้าเพียงดิน
คุณชาย

ผลงานซีรีส์

ปี 2559

รักฝุ่นตลบ รับบท เต้ (โป้ง : ชื่อสมมติที่มะเหมี่ยวใช้หลอกพีทว่าโป้งคือแฟนตนเอง)

ปี 2562

อรุณา 2019 รับบท วศิน สินสิริเตชินทร์
มิวสิควิดิโอ

ปี 2561

ไม่มีวันปล่อยมือ (เพลงประกอบละคร หน้ากากแก้ว) ศิลปิน ดิว อรุณพงศ์

ผลงานเพลง

ปี 2562

คนเดียว ซิงเกิ้ลแรกในชีวิตของ ธนภัทร กาวิละ จากโปรเจกต์ GRAVITY

รางวัล

รางวัล เอ็มไทย ท็อปทอล์คอะเบ้าท์ 2019 สาขา Top Talk-About Memorable Character 1

ติดตาม ได้ที่ไอจี ฟิล์ม ธนภัทร @film.thanapat

ออม สุชาร์ รักครบ5ปี

ออม หวานรักครบ 5 ปี ฝากตัวกับครอบครัว แอมป์ ฝ่ายชายถูกใจได้ของขวัญเป็นลู่วิ่ง

เพิ่มความหวานกรุบ ๆ สำหรับนางเอกสาว “ออม-สุชาร์ มานะยิ่ง” เพิ่งซื้อของขวัญวันเกิด ถูกใจแฟนหนุ่ม นักธุรกิจ “แอมป์-พิธาน องค์โฆษิต” แถมยังมีโมเมนต์ ดินเนอร์กับ ครอบครัวฝ่ายชาย และก็ รูปสวีตครบรอบ 5 ปี เจอ ออม งานเปิดตัวฟิล์มซีรีส์ฟอร์มยักษ์แห่งปี “Finding the Rainbow : สุดท้าย…ที่ปลายรุ้ง” โดย Viu Original ที่โซนอีเดน 1 ศูนย์การค้า เซ็นทรัลเวิลด์ เลยอัปเดตความหวาน

ออม สุชาร์ ฝากตัว

ออม สุชาร์ ถามวันครบรอบ ที่ผ่านมา เข้าปีที่เท่าไรแล้ว?

“ ปีที่ 5 แล้วค่ะ แฮปปี้ค่ะ เหมือนเราไปเที่ยวประเทศอังกฤษ มากับครอบครัวของพี่แอมป์ เรียกว่าใช้โมเมนต์กันจริง ๆ แทบจะไม่ได้อยู่กันสองคน คืออยู่กับครอบครัวด้วย ”

แอมป์ดูขยันเติมหวาน พาไปเที่ยวตลอด?

“ จังหวะคือเราถ่ายซีรีส์ Finding the Rainbow จบพอดี แล้วพี่แอมป์ ก็ชวนไปเที่ยวกับที่บ้านเค้า โอเคเราว่าง แล้วก็เลยไป ความพิเศษก็คือ เหมือนเราได้อยู่กับครอบครัวเค้าไปด้วย ครอบครัวเค้าก็เอ็นดูเรา เสมือนผูกพัน ไปมาหาสู่กันมา 5 ปีแล้ว ”

เป็นลูกสาวของบ้านเค้าไปหรือยัง?

“ ก็ฝากตัว มีคุณแม่ น้องสาวของพี่แอมป์ แล้วก็หลาน ๆ ”

มีญาติหรือใคร ในครอบครัวแอมป์มาแนะนำเทคนิค ในการอยู่บ้านนี้บ้างมั้ย?

“ ไม่ขนาดนั้นค่ะ ที่บ้านเค้าสบาย ๆ เหมือนพอจะมา แนะนำเทคนิคมันก็ดู ไม่สบายแล้วใช่มั้ย ทุกอย่างก็สบาย ๆ เป็นธรรมชาติ ”

แล้วมีผู้แนะนำอยากให้เรา เตรียมอะไรต่าง ๆ บ้างมั้ย?

“ (หัวเราะ) ด้วยความเป็นสายชิล เราตอบอย่างนี้มา 5 ปีแล้ว เนื่องจากว่าพี่แอมป์ เค้าก็ทำงานเยอะมาก ๆ ก็เรื่อย ๆ ค่ะ ”

5 ปี ยังต้องปรับอะไรมั้ย?

“ สำหรับออมขณะนี้คือลงตัวแล้วนะคะ ในความรู้สึกออมมันดู มากกว่านั้น ไม่ได้กุ๊กกิ๊กเหมือนแรก ๆ ที่เจอ มันไม่ใช่อย่างนั้นแล้ว มันเหมือนเรามีอะไรเรา ก็ให้คำแนะนำกัน ปรึกษากัน”

ตั้งแต่รู้จักกันมา ความเป็นแอมป์ที่น่ารักที่สุด ไม่เคยเปลี่ยนเลยเป็นยังไง?

“ ความน่ารัก สุภาพ อ่อนโยน ที่ทุกคนเห็นเค้า ความจริงเค้าก็เป็นอย่างนั้นแหละ เวลาอยู่บ้าน เค้าก็เป็นคนพูดเพราะ อ่อนโยน มันไม่ใช่ความมุ้งมิ้ง มันซอฟต์ ๆ ”

มีมุมมุ้งมิ้งมั้ย?

“ คือชอบคนพูดเพราะ ความขี้อ้อนเค้าก็มีบ้างค่ะ แบบว่าพี่อยากกินอันนี้ เค้าจะมาอ้อนให้เรา สั่งให้ เค้าจะไม่ค่อยใช้แอปสั่งอาหาร ”

ด้วยเค้าเป็นคนสุภาพ พูดเพราะ เพื่อน ๆ เรามีเกร็งมั้ย เดี๋ยวจะหลุดพูดไม่เพราะ?

“ ไม่รู้เป็นอะไร เพื่อนออมชอบเกร็งเค้า แรก ๆ ที่พบกันจะมีความเกร็ง ออมก็บอกไม่ต้องเกร็ง จริง ๆ พี่แอมป์เป็นคนสนุกนะ ”

เพื่อนกลัวหลุด คำหยาบ?

“ ก็พูดได้ ไม่เป็นไรเลย เค้าไม่ได้ซีเรียสเลย แต่ด้วยเนเจอร์ของเค้า เหมือนเป็นคนสุภาพ เท่านั้นเอง”

เค้าก็เข้ากับเพื่อนเราได้ดี?

“ ใช่ค่ะ ความจริงคือ เค้าเข้าได้กับ ทุกคนเลย ”

ล่าสุดที่เราซื้อลู่วิ่งให้เค้า ได้เช็กไหม ว่าเค้าได้ใช้หรือยัง?

“ ตั้งแต่ซื้อให้วันเกิด ออมก็ถามนะเค้าบอกใช้ไป 2-3 ครั้งเอง นี่ก็ผ่านไปเดือนนึงแล้ว เนื่องจากว่าเค้าทำงาน กลับมาดึกก็เหนื่อยแล้ว อีกวันนึงตื่นมาก็ต้องทำงานแต่เช้า อาทิตย์นึง ก็เลยเหมือนมีเวลาออกกำลังกาย เพียงแค่ครั้งนึง คือวันเสาร์ ไม่ก็อาทิตย์ ”

ออมก็บอกเค้าว่า ต้องวิ่งบ่อย ๆ มั้ยเพราะซื้อมาแพง?

“ ก็บอกว่าต้องใช้บ้างนะ การซื้อของขวัญ ให้เค้ามันค่อนข้างยาก คิดหัวแตกเลยว่าจะซื้ออะไรให้ดี ปรึกษากับเพื่อน ๆ มีความเห็นว่าที่บ้านเค้ามีลู่วิ่ง ที่ใช้งานมาเกือบจะ 20 ปีแล้ว นานมาก ออมเลยบอกเปลี่ยนเถอะ อันเก่าน่าจะใช้คุ้มแล้วแหละ เลยซื้อใหม่ให้ ซึ่งเค้าก็ชอบมาก ๆ ออมเห็นในตอนที่ออมให้ แล้วเค้ายิ้มแบบว่าชอบอะ ”

ครอบครัว ออม สุชาร์

มาถึงในเรื่องของโซเชียล ที่สาว ออม สุชาร์ และแอมป์ ได้อัปเดตความหวาน

ให้กันตลอดเวลา ที่มีเวลาว่าง ลงโซเชียล ให้ได้ชมกัน เปิดคลิปหวาน เซลฟี่ นึกว่าแฝด ออม สุชาร์ – แอมป์ หน้าเหมือนกันมาก จริง ๆ ทำให้เอาหลายคน ตกใจนึกว่าแฝดกันจริง ๆ

เห็นทีคงจะต้องยก สเตตัส หวานน้อย แต่หวานนะ ให้เลย สำหรับคู่นี้ของ ออม-สุชาร์ มานะยิ่ง และก็ แอมป์-พิธาน องค์โฆษิต ไปครอบครองซะแล้ว

เพราะว่า แม้ความรักทั้งคู่ จะไม่ค่อยหวือหวาหรือว่า มีช็อตกุ๊กกิ๊กมุ้งมิ้ง ให้ได้เห็นเสมอ ๆ ราวกับบรรดาคู่รักซุปตาร์คู่อื่น แต่ถึงแบบนั้น แล้วถ้าหากมีโอกาสดีจังหวะเหมาะสม เมื่อใด แฟนคลับ ที่ติดตามช่องทางโซเชียลฯ ทั้งของ ออม และก็ แอมป์ ก็มักได้ฟินจิกหมอนตลอด ๆ ตลอดด้วยเหมือนกัน

ซึ่งหนึ่งในนั้น ก็รวมถึงโมเมนต์ล่าสุด ที่ถูกเอามาแชร์ผ่านอินสตาแกรม @aom_sushar โดยเป็นคลิปวิดีโอสั้น ๆ แต่กลับมีผลต่อหัวใจหนักมาก เนื่องมาจาก ภาพที่ปรากฎ เป็นช็อตเอ็กซ์คลูซีฟต์ ของทั้งคู่ขณะนั่งอิงซบกัน พร้อมทั้งส่งยิ้มหวาน ให้กล้องถ่ายรูป

และก็แน่ ๆ ว่างานนี้นอกจากจะ ทำเอาบรรดาแฟน ๆ พากันชื่นใจที่ได้เห็น มุมโรแมนติกที่นาน ๆ ที จะมีมาเสิร์ฟ ให้ฟินผ่านหน้าจอแล้ว หลาย ๆ คน ก็ยังทักเป็น เสียงเดียวกันด้วยว่า จากคลิปที่เห็น ใบหน้าของ ออม นั้นคล้ายกับ แอมป์ ในบางมุม นับวัน ยิ่งเหมือนยิ่งคล้ายกันมาก ขึ้นทุกวันจริง ๆ

กลัฟ สร้างบ้าน

“กลัฟ” เตรียมงบ 40 ล้าน สร้างบ้านพร้อมสนามฟุตบอล ขอบคุณแฟนคลับทำความฝันให้เกินจริง

คว้าพระเอกหล่อหน้าใสไอดอลคนรุ่นใหม่อย่าง กลัฟ-คณาวุฒิ ไตรพิพัฒนพงษ์ มาเป็นพรีเซนเตอร์เบอร์ใหม่ งานนี้เครื่องดื่ม โออิชิ กรีนที จัดเปิดตัวแคมเปญใหม่ “OISHI GOODNESS OF TEA” อย่างยิ่งใหญ่ โดยใช้ลานหน้าสยามดิสคัฟเวอรี่ กลับเล็กไปถนัดใจ เนื่องจากว่าเหล่าแฟน ๆ ลูกบอลของบิ๊กกลัฟ แห่มาให้กำลังใจแน่นขนัด หลังกิจกรรม Exclusive Meet & Greet ของหนุ่ม กลัฟ กับแฟน ๆ เสร็จสิ้นก็เลยได้คุยกับ กลัฟ อัปเดตประเด็นการงาน ที่นอกเหนือจากละคร “มัดหัวใจยัยซุปตาร์” ทางช่อง 3 ที่คู่กับ เจนี่ รวมทั้งหนัง “บัวผันฟันยับ” แล้ว ก็ยังมีคอนเสิร์ต รวมถึงความคืบหน้าเรื่องบ้านที่ทุ่มเงินกว่า 20 ล้านบาท

กลัฟ เตรียมงบ
เริ่มจาก ถามคอนเสิร์ตที่กำลังจะจัดเร็ว ๆ นี้?

“ ในตอนนี้อยู่ในขั้นตอนจัดเตรียมทุกอย่างกำลังเริ่มฝึกซ้อมแล้ว เราคิดแผนต่าง ๆ ไว้เกือบครบ เกือบ 100% แล้วครับ เหลือแค่ลงปฏิบัติจริง ๆ ”

การแสดงดนตรีในครั้งนี้จะพิเศษกว่าที่ต่างประเทศมั้ย เนื่องจากว่าจัดในบ้านเรา?

“พิเศษกว่าครับ เพราะแบบที่ต่างประเทศจะแนวแฟนมีตมากกว่า ขนาดย่อมลงมาหน่อย แต่พอที่ไทยก็จะเป็นการแสดงดนตรีเต็มรูปแบบ”

คอนเสิร์ตบัตรขายหมดเลย รู้สึกยังไงบ้าง?

“ดีใจมากเลยครับ และจะต้องขอขอบคุณผู้ใหญ่ใจดี โออิชิ กรีนที มาก ๆ เลยนะครับที่ช่วยกันสนับสนุนให้เกิดคอนเสิร์ต ในครั้งนี้”

จะมีเพิ่มรอบมั้ย?

“จริง ๆ ก็อยากเพิ่มนะครับ แต่ด้วยสถานที่และปัจจัยอะไรหลาย ๆ อย่างด้วย ณ ช่วงเวลานั้นน่าจะเป็นช่วงที่ทุก ๆ คนอัดอั้นจากการจัดคอนเสิร์ตมาจากโควิด-19 ทำให้ฮอลต่าง ๆ ไม่ว่าง เรื่องเพิ่มรอบก็เลยยังไม่แน่นอนครับ”

คอนเสิร์ตครั้งนี้จะต้องฝึกซ้อมอะไรเป็นพิเศษมั้ย?

“ไม่บอกดีกว่า มีแขกรับเชิญด้วยครับ แต่ขออุบไว้ก่อนรอติดตามกันครับ”

นางเอกคนแรกของกลัฟจะมาด้วยมั้ย?

“ไม่รู้เหมือนกันครับ 555 จะต้องลองติดตามกัน”

อัปเดตเรื่องสร้างบ้านหน่อย?

“ ในตอนนี้ออกแบบบ้านเสร็จเรียบร้อยแล้วครับ ได้แบบที่ต้องการแล้ว เลือกแบบที่เราชอบเป็นหลัก แล้วก็จะมีสนามบอลด้วยครับ แต่ไม่ใช่สนามขนาด 11 คนนะครับ เป็นสนามฟุตซอลเอาต์ดอร์เล็ก ๆ แบบเล่นกัน 5-6 คน”

เพราะเหตุใดถึงอยากมีสนามฟุตบอลในบ้าน?

“ เพราะหากสนามบอลที่อื่น เวลาเลิกงานมา อย่างเลิกกองสี่ทุ่ม เราก็ขี้เกียจอาบน้ำออกไปเตะบอลแล้ว แต่ถ้าหากมีสนามบอลที่บ้าน ไม่ว่าจะเวลาใดเราก็สามารถโทร.ชวนเพื่อนมาเตะที่บ้านได้เลย”

พื้นที่บ้านหลังนี้เท่าไหร่?

“ไม่ถึง 1 ไร่ครับ”

กลัฟ พร้อมสนาม
นอกเหนือจากสนามบอลแล้ว มีอะไรพิเศษในบ้านอีก?

“ก็น่าจะเป็นห้องน้องแมวครับ อยากให้น้องมีที่วิ่งเล่นมากกว่าอยู่คอนโดในตอนนี้”

งบสร้างบ้านเท่าไหร่ แล้วจะบานมั้ย?

“ คงจะราว 20 ล้าน ก็นับว่าจากน้ำพักน้ำแรง หากถามว่าจะบานมั้ย ก็คงจะบานอยู่แล้วล่ะครับ เพราะเห็นพี่ ๆ ที่รู้จัก ใครทำบ้าน ส่วนมากงบบานกันทั้งนั้น”

จัดเตรียมบานไว้กี่เปอร์เซ็นต์?

“100% เลยละกันครับ เพราะไม่รู้ว่าเราจะอยากได้อะไรเพิ่มเติมอีกมั้ย จะต้องรอดูตอนบ้านเสร็จ”

บ้านหลังนี้นับว่าเก็บหอมรอมริบมากี่ปี?

“ก็ตั้งแต่เริ่มทำงาน ราว 3-4 ปีได้ ก็ภูมิใจมากเลยครับ เพราะว่าความฝันเราตอนแรกก็ไม่ได้ใหญ่โต แค่ซื้อบ้านได้ ดูแลครอบครัวได้ แต่วันนี้เป็นสิ่งที่ประสบความสำเร็จมา มันก็มาไวมากเหมือนกัน จะต้องขอบคุณแฟนคลับ ทุกคนที่ให้การสนับสนุนผมตลอดมาครับ”